Home ข้อคิด 10 จุดอ่อนที่ดูแรงของคนไทยเรา เมื่อฟังแล้วแทบเถียงไม่ออกเลยจริงๆ

10 จุดอ่อนที่ดูแรงของคนไทยเรา เมื่อฟังแล้วแทบเถียงไม่ออกเลยจริงๆ

1 second read
ปิดความเห็น บน 10 จุดอ่อนที่ดูแรงของคนไทยเรา เมื่อฟังแล้วแทบเถียงไม่ออกเลยจริงๆ
0

จากการผ่านเวทีในระดับโลกหลายต่อหลายครั้ง ไทยถูกวิพากวิจารณ์ อย่างหนักหน่วงในกระแ สโ ล ก าวิวัฒน์ และการก้าวเปลี่ยนอย่าง

รวดเร็วด้านเศรษฐกิจเทคโนโลยี และวัฒนธรรม เรียกว่าเป็นการวิเคราะห์ที่จี้แ ท ง

ใจดำคนไทยเสี ยจริง ๆ โดยชี้จุดอ่อนคนไทยไว้ถึง 10 ข้อ ที่เราคนไทยควรรู้และรับทราบ เพราะที่กล่าวมาทุกข้อแทบปฏิเสธไม่ได้เลยไม่

เชื่อลองไล่อ่ านแล้วพิจารณาอย่างปร าศ จากอคติ และไม่ต้องว่าเค้านะคะ เพราะนี่คือกระจกบานใหญ่ที่สะท้อนตัวตนของเรา

1. คนไทยรู้จักหน้าที่ของตัวเองต่ำมาก

โดยเฉพาะหน้าที่ต่อสังคม เป็นประเภท มือใครย าวสาวได้สาวเอา เกิดธุรกิจการ

เมืองธุรกิจราชการ ธุรกิจการศึกษา ทำให้ประเทศช าติ ล้าหลังไปเรื่อย

2. ไม่จริงจังในความรับผิ ด ชอบต่อหน้าที่

ทำแบบผักชีโรยหน้าหรือทำด้วยความเ ก ร งใจ ต่างกับคนญี่ปุ่นหรือ ยุโรปที่จะให้ความสำคัญกับสัญญาข้อตกลงอย่างเ ค ร่ งครั ด

เพราะหมายถึงความเชื่อถือในระยะย าว คนไทยจึงถูกลดเครดิตความน่าเชื่อถือลงเรื่อย ๆ

3. การกระจายความเจริญยังไม่เต็มที่

ประชากรประมาณ 60-70% ที่อยู่ห่างไกลจะข าดโอกาสในการ พัฒนาคุณภาพชีวิตของตัวเอง

และชุมชนซึ่งเป็นหน้าที่ของภาครัฐที่ต้องส่งเสริม

4. การบังคับกฎหมายไม่เข้มแข็ง

และไม่ต่อเนื่อง ทำงานแบบลูบหน้าปะจมูก ปราบปรามไม่จริงจัง

การดำเนินการตามกฎหมายกับผู้มีอำน าจหรือบริวารจะทำแบบเอาตัวรอดไปก่อนไม่มีมาตรฐาน

5. อิจฉาตาร้อน

สังคมไทยไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษ เลี่ยงเป็นศรีธนญชัย ยกย่องคนมีอำนาจ มีเงินโดยไม่สนใจภูมิหลัง

โดยเฉพาะคนที่ล้ มบนฟูกแล้วไปเกาะผู้มีอำนาจ เอาตัวรอด คนพวกนี้ร้ ายยิ่งกว่าผู้ก่อการร้ าย ดีแต่พูดมือไม่พาย

เอาเท้ารานํ้า ทำให้คนดีไม่กล้าเข้ามาเพราะกลั วเปลืองตัว

6. เอ็นจีโอค้านลูกเดียว

บางกลุ่มอิงอยู่กับผลประโยชน์บ่อยครั้งที่ต้องเสี ยโอกาส

อย่างมห าศ าล เพราะการค้านหัวชนฝา เหตุผลจริง ๆ ไม่ได้พูดกัน

7. ยังไม่พร้อมในเวทีโลก

การสร้างความน่าเชื่อถือ ในเวทีการค้าระดับโลกยังข าดทักษะ

และทีมเวิร์คที่ดีทำให้สู้ประเทศเล็ก ๆ อย่างสิงคโปร์ไม่ได้

8. การศึกษายังไม่ทันสมัย

คนไทยเก่งแต่ภาษาของตัวเอง ทำให้ขาดโอกาสในการแข่งขันกับต่างช าติในเวทีต่าง ๆ ไม่กล้าแสดงออกขิ้อายไม่มั่นใจในตัวเอง

จึงตามหลังช าติอื่นคนมีฐานะจะส่งลูกไปเรียนเมืองนอก เพื่อโอกาสที่ดีกว่า

9. มองอนาคตไม่เป็น

คนไทยมากกว่า 70% ทำงานแบบไ ร้อนาคตทำแบบวันต่อวันแก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปวันๆ น้อยคนนักที่จะทำงานเป็นระบบ

เป็นขั้นเป็นตอนมีเป้าหมายในอนาคตที่ชัดเจน

10. เลี้ยงลูกไม่เป็น

เด็กไทยข าดความอดทน ไม่มีภูมิคุ้มกันเป็นขิ้โ ร คทางจิตใจ ไม่เข้มแข็ง เพราะการเลี้ยงลูกแบบไข่ในหินไม่สอนให้ลูกช่วยตัวเอง

ไม่กระตื อรื อร้ น ในการช่วยตนเองขวนขวายแสวงหา ค้นหาตัวเองและไม่สอนให้สำนึกรับผิ ดชอบต่อสังคม

เจ็ บ ป ว ดจริง ๆ แต่มันคือเรื่องจริงที่เถียงไม่ออก เห็นทีไทยเราจะต้องปรับตัวอย่างหนัก

เริ่มตั้งแต่ในครอบครัสังคม ตลอดจนหน่วยงานภาคธุรกิจ และภาครั ฐ บ าลต้องร่วมกันตระหนักและหาทางแก้ไขอย่างจริงจัง

 

ขอขอบคุณ : คุณวิกรม กรมดิษฐ์

Load More Related Articles
Load More By Admin
Load More In ข้อคิด
Comments are closed.

Check Also

คนไม่มีลูก เเก่..มา เเล้วใครจะเลี้ยงดูคุณ ใครที่คิดแบบนี้ลองอ่านแล้วจะเข้าใจ (สอนใจได้ดี)

แนวคิดที่ว่า… มีลูกเพื่อหวังจะให้มาเลี้ยงดูในย ามแก่นั้ … …