เมื่อคุณก้าวขึ้นสู่หน้าที่ ของฝ่ายบริหารทันที่ที่ตำแหน่งของคุณสูงขึ้นชีวิตของคุณก็สูงขึ้นตาม
การเปลี่ยนแปลงทุกอย่างเป็นสิ่งที่คุณ จำเป็นต้องปรับปรุงเพื่อสร้างความน่าเชื่อถือให้กับตัวเองมากยิ่งขึ้น
แต่การเป็นคนในระดับ หัวหน้าคุณจำเป็นจะต้องวางตัวแบบไหน ต้องปรับปรุงตัวอย่างไร ข้อคิดเหล่านี้
อาจเป็นแนวทางที่สำคัญในการเปลี่ยนตัวคุณไปสู่ภาพลักษณ์ของผู้นำอย่างที่คุณต้องการ
1. สุขุม รอบคอบ
คุณสมบัติ ของคนเป็นหัวหน้า ที่นับว่าโดดเด่นมาก คือ การเป็นคนที่สุขุมรอบคอบเสมอ คนเป็นลูกน้องอาจจะหลงลืม
หรือผิดพลาดบางอย่าง เช่น พิมพ์จดหมาย แต่ตัวหนังสือตกหล่นใส่วันที่ผิดหรือคำนวณตัวเลขขาดบกพร่องไปบ้าง
อาจเป็นเพราะเขาหรือเธอมีงานล้นมือดังนั้น หัวหน้าอย่างคุณ จึงควรทำตัวให้เป็นนักตรวจสอบ ที่ละเอียดถี่ถ้วนสักหน่อย
หากลูกน้องนำงานมาส่งก็ควรตรวจสอบอีกครั้ง ก่อนจะเซ็นชื่อรับรองเอกสารทุกชิ้นความรอบของคุณ
ยังรวมไปถึงการตรวจสอบการทำงานของลูกน้องอยู่เสมอ
2.อยู่ในกฎระเบียบ
แม้ว่าคุณจะขึ้นมา อยู่ในระดับหัวหน้าแล้วก็ตาม แต่สิ่งหนึ่งที่คุณไม่ควรละเลยคือ คุณควรปฏิบัติตัวอยู่ภายใต้กฎระเบียบ
ของบริษัทเช่นเดิม หัวหน้าบางคนเปลี่ยนจากที่เคยมาทำงานตรงตาม เวลาก็กลับมาทำงานสาย หรือไปกินมื้อเที่ยง
จนถึงบ่ายสองโมงจึงกลับเข้ามาทำงานหากคุณหลงระเริงกับตำแหน่งและปล่อยให้ตัวเองเป็นอิสระจากกฎระเบียบ
ของบริษัท อย่างนี้คงไม่ดีแน่ หากบรรดาลูกน้องเห็นคุณทำตามอำเภอใจ อย่างนี้อีกไม่นานคงมีลูกน้องที่ทำตัวเอาอย่างคุณ
มาถึงตรงนี้คุณคงพอจะมองเห็นความยุ่งเหยิงของที่ทำงานของคุณแล้วล่ะ
กลับตัวเวลานี้ก็ยังทัน หันมาทำตัวเป็นตัวอย่างที่ดีให้กับลูกน้องดีกว่าเพราะการเป็นหัวหน้าก็เป็นเหมือนการยืนบนที่สูง
ที่ใครต่อใครมองเห็นได้ง่าย หากคุณเป็นตัวอย่างที่ดีของหน่วยงาน ลูกน้องทุกคนก็จะเกิดความเกรงใจ
จากนั้นวินัยในการทำงานก็จะตามมาได้เอง
3.แก้ปัญหาทันท่วงทีเพื่อให้สบายใจ
ภาวะกลืนไม่เข้า ต า ย ไม่ออกนับเป็นตัวการ ที่ก่อให้เกิดความ เ ค รี ย ด ยกตัวอย่างเช่น คุณเป็นเจ้าของร้าน อาหาร
แล้วพนักงานเสิร์ฟคนหนึ่งของคุณเกิดพลาดอาหาร หกเลอะเทอะเสื้อผ้าของลูกค้าแทนที่คุณจะปล่อยให้ลูกน้อง
เป็นฝ่ายรับคำตำหนิจากลูกค้าเพียงฝ่ายเดียวคุณก็เดินตรงเข้าไปหาลูกค้า แล้วบอกเขาว่าคุณเป็นใคร
ทางร้านยอมรับผิดและจะให้ลูกค้ากินฟรี ในมื้อนั้นเท่านี้ทุกฝ่ายก็แฮปปี้เพราะอำนาจอยู่ในมือของคุณ
ลงมือจัดการกับต้นตอของความ เ ค รี ย ด เสียเลย
อย่ามั่วมานั่งคาดเดาว่าอะไรจะเกิดขึ้นต่อไปที่จะยิ่งเป็นการเสียเวลาไป โดยเปล่าประโยชน์ และไม่ช่วยให้อะไรดีขึ้น
แต่ทันทีที่คุณเข้าไปหาและจัดการกับมันความ เ ค รี ย ด นั้นก็จะหายไป
4.มั่นใจในตัวเอง
กว่าที่คุณจะก้าวขึ้นมา เป็นหัวหน้าได้นั้น คุณจะต้องฝ่าด้านพิสูจน์ความสามารถในสายตาของผู้บริหารระดับ
สูงมานานพอสมควร ดังนั้นคุณจึงนับว่าเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถมากที่สุด ในแผนกที่คุณต้องดูแลอยู่
ถ้าร้านของคุณทำขนมเค้กขาย คุณก็นับว่าเป็นคนที่เชี่ยวชาญในการทำขนมเค้กมากที่สุด คนหนึ่ง
ดังนั้น จึงมีความมั่นใจอย่างเต็มเปี่ยม ทุกครั้งที่คุณลงมือทำเค้ก หรือสอนให้ลูกน้องทำเค้ก คุณก็สามารถสั่งการ
ได้อย่างถูกต้องไม่มีข้อผิดพลาด ถ้าคุณลงมือเองก็แน่ใจได้ว่า เค้กชิ้นนี้ต้องอร่อยเมื่อคุณได้แสดงให้เห็น
ไม่ว่าจะเป็นด้วยคำพูดหรือการกระทำว่ามีความมั่นใจในตัวเอง
อาจจะเริ่มต้นจากาการพูดถึงสิ่งที่คุณเชี่ยวเป็นพิเศษอย่างเต็มเสียง ด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจในตัวเองมากที่สุด
ทุก ๆ คนรวมทั้งผู้บริหารในระดับสูงขึ้นไป ก็จะให้ความไว้เนื้อเชื่อใจและมีความมั่นใจในตัวเราเช่นกัน
5.รู้จักเข้าสังคมให้เป็น
จากที่เคยทำงานตั้งแต่เช้า หลังเลิกงานก็ตรง กลับเข้าบ้าน ก็อาจจะมีการเปลี่ยนแปลงในบางวัน
เพราะคนระดับหัวหน้าอาจจะต้องไปปรากฏตัว อยู่ในวงสังคมบ้าง เพื่อประโยชน์ในงานของตัว
หรือดันหน่วยงานของคุณให้เป็นรู้จัก เพื่อสร้างความก้าวหน้าให้กับแผนกของคุณรวมทั้งตัวของคุณ
รวมทั้งตัวของคุณเองด้วยหากคุณบอกปัดการเข้าสังคม คุณอาจจะอยู่ที่ตำแหน่ง หัวหน้าเล็กๆ ไปจนเกษียณ
6.ภาพลักษณ์ของตัวเอง
ก่อนหน้านี้คุณอาจจะไม่ต้องดูแลเรื่องการแต่งเนื้อแต่งตัวมากมายนัก เวลานี้ก็ถึงเวลาที่คุณควรจะทุบกระปุก
เอาเงินเก็บมาทำสวยทำหล่อให้ตัวเองดูดียิ่งขึ้นไปอีก ไม่ว่าจะเป็นการลงทุนซื้อเสื้อผ้าใหม่
จากที่เคยใส่แต่ของลดราคาหรือ 199 ราคา เด็ดประจำใจ ก็ควรเปลี่ยนเสื้อผ้าให้ดูดีขึ้น
เดินเข้าห้างซื้อเสื้อผ้ายี่ห้อดังที่ถึงคราวลดราคามาสร้างภาพพจน์ที่ดีให้ตัวคุณกันดีกว่า
จากนั้นก็ถึงกระเป๋า รองเท้า ผมทรงใหม่ที่ช่วยให้คุณดูดีกว่า เดิมคุณสาว ๆ ที่ไม่ค่อยแต่งหน้าแต่งตาก็ควรลงทุน
แต่งเสริมเติมสวยเสียหน่อยจากที่มีเพียงลิปสติกก็ลองเพิ่มรองพื้น อายแชโดว์ บลัชออน ดัดขนตา ทามาสคารา
ถ้าคุณยังพอมีเวลาและทุนทรัพย์เหลืออยู่ก็เข้าสปานวดหน้านวดตัว ให้ผิวพรรณ เปล่งปลั่งสดใสดูบ้าง
รับรองว่าเมื่อคุณเดินเข้าที่ทำงานใน วันพรุ่งนี้ลูกน้องทั้งหลายของคุณจะต้องเหลียวหลังอย่างแน่นอน
7.สุภาพอ่อนน้อม
คนเป็นหัวหน้าวามสุภาพอ่อนน้อม นับว่ามีความสำคัญอย่างมาก เพราะคุณจำเป็นจะต้องพบปะพูดคุย
กับผู้คนมากหน้าหลายตา ยิ่งขึ้น จากที่เมื่อก่อนคุณอาจจะนั่งอยู่หน้าคอมพิวเตอร์ วัน ๆ เจอแต่เพื่อนร่วมงาน
จากนี้คุณก็จำเป็นต้องพบปะกับผู้บริหารระดับสูง ต้องเจอกับลูกค้ามากหน้าหลายตาขึ้น
หรือต้องอออกงานสังคมมากกว่าเมื่อก่อน ดังนั้นคุณจึงควรปรับตัวเข้ากับผู้อื่นมากกว่าเมื่อก่อนความสุภาพอ่อนน้อม
ไม่ว่าจะเป็นกิริยา ท่าทาง คำพูดจา ที่คุณแสดงออกจึงมีความสำคัญมาก แม้ว่าคุณจะพูดคุยกับคนที่อยู่ในระดับต่ำกว่า
หรือพูดจาด้วยความสุภาพอ่อนน้อมนั้นจะยิ่งทำให้ใครต่อใครรู้สึกรักใคร่และเอ็นดูคุณมากยิ่งขึ้น ลูกน้องทั้งหลาย
ก็จะทำให้คุณด้วยความเต็มใจ ส่วนผู้หลักผู้ใหญ่ก็จะเอ็นดู และช่วยส่งเสริมคุณให้ก้าวหน้ายิ่งขึ้นไป
อีกไม่ตำหนิลูกน้องในที่สาธารณะการไม่ตำหนิลูกน้องในที่สาธารณะ
สำหรับคนเป็นหัวหน้านั้นคือ คุณควรคิดอยู่เสมอว่าทุกครั้งที่คุณนำเรื่อง ของลุกน้องมาเป็นหัวข้อในการสนทนากับเพื่อน
ผู้บริหารระดับสูง หรือกลางงานสังคมต่าง ๆ คุณควรเลี่ยงเรื่องที่ไม่ค่อยดีนัก เช่น พวกเขาช่างไม่ขยันขันแข็งเอาเสียเลย
พวกเขามาทำงานสายหรือพวกเขาชอบจับกลุ่ม คุยจนไม่เป็นอันทำงานเรื่องเหล่านี้ คุณควรเลี่ยงให้ห่าง
ขอบคุณ : g o t o k n o w