ในปัจจุบันนี้ เรามีเพื่อนกันมากมาย ทั้งเพื่อนที่คบกันมาตั้งแต่เด็กเพื่อนร่วมสถาบัน เพื่อนที่ทำงาน
เพื่อนจากสมาคมต่างๆ รวมถึงเพื่อน ในโลกออนไ ลน์ด้วย บางคนแต่งตัวดี ดูภูมิฐาน พูดจาดี แต่ถ้าได้ลองคบดูลึกๆ แล้วถึงได้เห็นธ าตุแท้ของแต่คนละว่าเป็นยังไง
ไอ้คนที่เรานึกว่าไว้ใจได้ พึ่งพาอาศัยได้กลับไม่เคยช่วยเหลือ เราเลยซักครั้ง
แถมบางทียังอาจเอา มี ด ม า แ ท ง ข้างหลังเรา ซะอีก แต่บางคน พูดจาไม่ดี หน้าตาไม่น่าคบ แต่งตัวก็ดูมอซอ กลับเป็นคนที่คอยช่วยเหลือเรา เป็นคนที่ไว้ใจได้ที่สุดซะงั้น
และ 13 ข้อต่อไปนี้ เป็นบุคคลที่ไม่ควรคบไม่ควรเอาไว้ใกล้ตัว ห่างได้เป็นห่างอย่าไปข้อเกี่ยวด้วย จะดีที่สุด
1.ยืมเงินแต่ไม่คืน
มีหลายคน แล้วที่ต้องแตกหักกัน เพราะเรื่องเงิน เป็นเพื่อนกันย ามเดื อ ดร้ อ น ถ้าช่วยเหลือได้ ก็สมควรที่จะช่วยเหลือกันค่ะ
แต่ในกรณีที่ถ้าเพื่อนคนไหน มายืมเงินเราบ่อยๆ แต่เวลาคืนกลับทำเหมือนไม่อย ากคืนและแกล้งทำเป็นลืมๆ ผลัดวันประกันพรุ่ง เกิน 3 ครั้ง ก็โบกมือบ๊ายบาย ซาโยนาระ มั้ย ?
2.ทำตัวเป็น “นกสองหัว”
ปากอย่างใจอย่าง หรือต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง สำหรับบุคคลเหล่านี้แล้วต่อหน้าเขาคุณจะเปรียบเป็นเทพบุตรผู้ไร้ราคี เขาจะไม่มีวันเอาข้อเสี ยหรือสิ่งที่เขาไม่พอใจมาพูดให้คุณได้ฟังต่อหน้าเป็นแน่
แต่อย่าได้เผลอเลยคนคนเดียวกันนี่เองลับหลังคุณ เขาได้เอาคุณไปพูดไปนินทาไป
พูดกระแนะกระแหนไปกุเรื่องเป็นสิบเป็นร้อยเรื่อง จนกลายเป็นอีกเรื่องที่คุณอาจไม่คิดมาก่อนก็ได้
3.กอบโกยผลประโยชน์อยู่ฝ่ายเดียว
จ้องเอารัดเอาเปรียบไม่มีที่สิ้นสุด บุคคลประเภทนี้มักจะแอบแฝง มาในรูปแบบเพื่อนหรือคนสนิทต่างๆ เข้ามาหาคุณ
ใครจะไปรู้ว่าแท้จริงแล้ว เหตุผลที่เขาเข้าหาคุณนั้นเพียงเพื่อจะมาเอาผลประโยชน์ จากคุณเท่านั้น
ซึ่งอาจจะเป็นทรัพย์สินที่คุณมีอยู่ อาจจะเป็นแรงกาย หรือทรัพย์สินทางสติปัญญาของคุณ เพื่อ โ อ น เข้าทางประโยชน์ของเขา มันเป็นเรื่องปกติมาก ที่คนเราทุกคนเกิดมาอย่าง “น้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่า” ความหมายคือ คนเราต้องพึ่งพาอาศัยซึ่งกัน
ย้ำอีกที “ซึ่งกันและกัน”
แต่บุคคลนี้กลับใช้คตินี้ ตีความผิดไปหรือไม่ก็ตีความไม่ครบ เขากลับเห็นแต่ประโยชน์ ที่คุณจะสามารถให้เขาได้
ใช้เล่ห์กลเพื่อเอารัดเอาเปรียบคุณ สารพัดรูปแบบ สำคัญแต่ตัวจะรับไม่คำนึงถึงการให้ โดยเบื้องลึกของจิตใจคนเหล่านี้บางคนไม่ได้คิดแม้แต่จะหาทางตอบแทนคุณอย่างใด
4.ไม่รู้จักขอบเขตของคำว่า ‘เพื่อน’
ถึงจะบอกว่าสนิทกันแค่ไหน ควรเว้นระยะ และเข้าใจคำว่า พื้นที่ส่วนตัวด้วย ถามว่าแล้วจะรู้ได้ อย่างไร ว่าเท่าไหนถึงเรียกว่า ไม่ล่วงเกินขอบเขตเอาหลักง่ายๆ ไม่อยากให้ใครทำกับเราแบบไหนก็อย่าทำแบบนั้น
แต่กับบางคนเขาก็ไม่รู้จริงๆ ว่าสิ่งที่ทำน่ะมันเกินขอบเขต น้องๆ อาจจะพูดกับเพือนไปตรงๆ
แต่ ก็อย่าใช้คำพูด รุ น แ ร ง หรือถ้าคุยแล้วไม่รู้เรื่อง เขายังทำแบบเดิมซ้ำๆ สถานะมายเฟรนด์ก็คงต้องลดเหลือแค่คนเคยรู้จักพอ
5.พูดว่าตำหนิแต่คนอื่น
ไม่มีใครที่ไม่ถูกนินทา หรือถูกพูดลับหลังก็จริงยิ่งเวลาชาวแกงค์รวมตัวกัน จะว่าไปมันก็เป็นเรื่องธรรมดาที่จะสุมหัวกันเม้ามอยคนอื่น
แต่สำหรับคนที่เจอทีไร ก็ไม่มีเรื่องสร้างสรรค์อื่นๆ มาพูดมาคุยบ้าง
มีแต่เรื่องว่าคนอื่นล้วนๆ คนนั้นก็ไม่ดี คนโน้นก็ไม่ดี ว่าแต่คนอื่น จ้องจับผิดแต่คนอื่นไปทั่ว มีอยู่คนเดียวที่ดีคือตัวเอง
6.เอาตัวเองเป็นที่ตั้ง รับฟังความต่างไม่ได้
ไม่รับฟังความคิดเห็นใคร บางครั้งสิ่งที่คนเราคิดอาจจะไม่ถูกต้องเสมอไป คนรอบข้างที่เขาเตือน ก็ควรจะรับฟัง แล้วเอามาไตร่ตรองดูไม่ใช่ไม่ฟังใคร ไม่เปิดใจ ดี แต่จะให้คนรอบข้างฟัง
และทำตามอย่างที่ตัวเองคิดเพียงอย่างเดียว คนที่เป็นเพื่อนกันก็ต้องรู้จักพูดพร้อมกับขณะเดียวกัน ก็ต้องรู้จักฟังเพื่อนด้วย
ไม่ใช่เอาแต่ความคิดและตัวเองเป็นที่่ตั้ง ใครเขาจะอย ากร่วมเคียงข้างไปกับคุณได้ทุกเวลา
7.เพื่อนพา เ ล ว
กิจกรรมห่ามๆ เชื่อว่าวัยรุ่นทุกคน ก็คงอยากลองแต่ครั้นหากเจอเพื่อนที่ชวนทำ แต่เรื่อง เ ล ว ๆ ตลอด
อาทิ มั่ ว สุ ม อ บ า ย มุ ข เล่น พ นั น ไม่เคยจะชวนกันไปทำกิจกรรม
อะไรสร้างสรรค์ แยกแยะ ผิดชอบ ชั่ ว ดีไม่ออก ขั้นแรกก็เตือนเพื่อนหน่อย ถ้ายังไม่ฟังก็ถอยออกมาดีที่สุด
8.ให้ช่วยตลอด 24 เหมือนเป็นอีก อ วั ย ว ะ ในร่างเธอ
เป็นเพื่อนกัน ต้องช่วยเหลือกันในยาม เดือดร้อน ใช่ค่ะ เป็นเรื่องที่สมควรทำ แต่หากเจอเพื่อน ประเภทแบบว่าให้ช่วยทุกเรื่อง ช่วยแทบจะ 24 ชั่ ว โมง
เรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่ลงมือทำเองได้ก็ไม่ทำ แต่ให้เพื่อนช่วย พอไม่ช่วยก็มีอาการ ขุ่นเคืองโน่นนี่นั่น อย่าเสี ยเวลาเลยค่ะ เจอคนแบบนี้ วิ่งออกมาเลยเถอะ
9.เป็นนักกุเรื่อง ชีวิตไม่อยู่บนฐานความเป็นจริง
บุคคลประเภทนี้ มักชอบพูดเรื่องเท็จเป็นกิจจะลักษณะ ไม่สนใจว่าสิ่งที่ตนเองได้ให้ข้อมูล ที่ไม่เป็นความจริงต่อผู้อื่นไป
แล้วฝ่ายตรงข้ามจะถูกคนในสังคมมองเช่นไร บุคคลประเภทนี้มักชอบพูดจาบิดเบือนความจริง จนบางครั้งคุณก็น่าจะรู้สึกได้ด้วยตัวคุณเอง
10.เป็น มิ จ จ า ชี พ ในรูปแบบคนรู้จัก
บุคคลประเภทนี้ อาจเข้ามาทำความรู้จักกับคุณ เพราะเขาต้องการบางอย่าง
จากคุณแบบไม่สุจริต เขาอาจเป็นมือขโ ม ย ในคราบของเพื่อน ไม่ว่าเป็นทรัพย์สินทางตัวหรือทางปัญหา
หรือไม่ก็หลอกหาผลประโยชน์ด้วยวิธีแบบเดียว กับที่ มิ จ ฉ า ชี พ เขาทำกัน สำหรับคนประเภทนี้แล้วเมื่อคุณต้องระวังตัวเมื่อเริ่มรู้ตัว ว่ามีคนประเภทนี้ เข้ามาในชีวิตทางที่ดีแนะนำให้ตีตัวออกห่างไปยิ่งไกลเท่าไหร่ก็ยิ่งดี
ขอบคุณ : d e e d a y f a s h i o n