ใครไม่เคยเป็นหนี้ ไม่รู้หรอกว่า“เป็นหนี้ มัน ท ร ม าน ” จริงดังที่เขาว่ากัน “การไม่มีหนี้เป็นลาภอันประเสริฐ”
แต่บ่อยครั้งที่เรา “พล าด” ไม่ว่าจะเป็นจากเรื่องของ
การล งทุ น (อันนี้พออนุโลม) แต่ที่หนักคือการเป็น “หนี้ที่ฟุ่ มเฟื อย”
แบบนื้ถือว่าใช้จ่ายเกินตัว จนกลายเป็น “หนี้ท่วมหัว เอาตัวไม่รอด”ผมเองก็เคยพลาดไม่ว่า
จะเป็นเรื่องการลงทุ น แม้ปัจจุบันจะรอบคอบมากยิ่งขึ้นในเรื่องนี้ แต่ที่หนักสุดก็คงเป็นหนี้ที่ปล่อยตัวปล่อยใจ
หลงใหลได้ปลื้มไปกับพวกบัตรเ ค รดิ ต ประเภทเอาน่า
เดี๋ยวก็ค่อยผ่ อ น จ่ายเอาจนสุดท้ายเต็มวงเงิน เงินเดือนได้มาก็ต้องมาผ่ อ น
นี้กันจนหัวโตทีเดียวผมผ่านช่วงเวลา เ ล ว ร้ า ยในการตกอยู่ในภาวะ “ลูกหนี้ ไม่มี
เงินจ่าย” มาแล้ว เข้าใจดีครับ เป็นหนี้มันหน้ามืดตัวมั วขนาดไหนเป็นภาวะกลั วเสียงโทรศัพท์
ไม่อย าก มองไปรษณีย์ มาส่งใบแจ้งหนี้ ทวงหนี้ ส า รพั ดกว่าจะผ่าน มาได้นี่ทุ กข์ระ ท ม เกินจะบอกใครครับ
ผมว่านะ สำหรับเรื่องการเป็นหนี้ มันคือปัญหาหนัก สำหรับเรื่องการเงินแล้ว และยิ่งหากใครเป็นหนี้
แบบที่ว่าแทบจะห ม ดเ นื้ อ หมดตัว ผมก็บอกได้เลยว่า แก้ปัญหาย าก แต่ว่า! ไม่ใช่ว่าจะแก้ไม่ได้
สำหรับคนที่เป็นหนี้ สิ่งแรกเลย เราต้องตั้งสติให้ดีก่อน และจงคิดไว้เสมอว่า การเป็นหนี้ไม่ได้ทำให้ใคร ต ๅ ย
เพราะทุกปัญหามีทางออกอยู่แล้ว แต่ไม่ควรหันไปหาทางออกง่ายๆ เช่นการ หาเงินก้อนอื่น มาโปะหนี้เก่า
เพราะจะยิ่งทำให้หนี้เราเพิ่มเร็ว สิ่งที่เราควรทำอย่างแรกคือเริ่มไปเจรจา กับคนที่ให้เรากู ้เงิน
จริงๆ แล้วเวลาที่เป็นหนี้อยู่ เราเองสามารถไปหาเจ้าหนี้ ขอประน อ ม หนี้ได้ เพราะไม่ว่าจะเป็นธนาคาร
หรือว่าบริษัทต่างๆ เขาเองก็อ ย า ก ได้เงินของคืนอยู่แล้ว แม้จะได้ด อ กน้อยลงก็ตาม เพราะอย่างไรซะ มันก็ยังดี
กว่าปล่อยให้เป็นหนี้เสี ย ฉะนั้น ควรเจรจาให้หมดกับ เจ้าหนี้ทุกเจ้า ทีนี้ต่อไปก็แยกหนี้ดีกับหนี้ เ ล ว
เริ่มจัดการหนี้เ ล ว ที่มีก่อน โดยจัดการจากหนี้เ ล วที่มีต้นทุน หรือ ด อ ก เบี้ ยสูงๆ ก่อน ซึ่งเงินที่เรา
จะหามาปิดหนี้ พวกนี้เนี่ย เราอาจจะต้องตั ดใจขาย สินทรั พย์บางอย่างของเรา เพราะส่วนนึงที่เรา
เป็นหนี้นั้นเชื่อว่า น่าจะมาจากการที่เราเอา เงินไปซื้ อ สินทรั พย์ที่มันไม่จำเป็น ทีนี้ถ้ามาถึงจุดนึง
ที่ร ายได้ไม่พอ รายจ่ายของด อ กเบี้ ย เราคงต้องข ายเพื่อไปปิดหนี้ เพื่อให้ภาระด อ ก เบี้ ยมันลด
และพอสถานการณ์ดีขึ้น จะกลับไปซื้ อ ใหม่ก็ยังไม่สาย อีกสิ่งที่ควรร ะวัง ก็คือส่วนใหญ่ทุกคน
จะมีสินทรัพย์อย่างพวก ที่อยู่อาศัย คือจะบอกว่าถ้าไม่มั่นใจ ว่าจะคุณจะหาเงินมาผ่ อ นจ่ายได้
จริงๆ ไหม ก็ไม่ควรเอาที่ดินหรือ บ้านไปค้ำเด็ ด ข าดนะ เพราะว่าหากเราเอามาคืนไม่ได้
บ้านเรา จะโด นยึ ดเข้าไปอีกหนักกว่าเดิมอีกทีนี้! พอเราเริ่มลดภาระเรื่องหนี้
ได้ระดับนึง เชื่อว่าปัญหาน่า จะเบาขึ้นเยอะแล้ว ต่อไปเราก็ต้องมาจัดการ ตัวเองที่เป็นต้นตอปัญหา
เพราะมันเกิดจากที่เราหาเงินได้ ไม่เท่ากับรายจ่าย ว่าทำไมมันถึงเป็นแบบนั้น ทำไมเราต้องไปหยิบยืมเงิน
จากที่อื่น เพื่อให้เพียงพอกับรายจ่าย เพราะงั้น ช่วงที่สถานการณ์ยังไม่ดี อาจจะต้องเหนื่อยขึ้นมากกว่าเดิม
คุณควรหาทางเพิ่มร ายได้ง่ายๆ เช่น การทำโอที งานพ า ร์ทไ ทม์ช่วงวันหยุด เส าร์-อาทิตย์
คิดว่าในแต่ละเดือน น่าจะได้เพิ่มมา 10,000-20,000 บาท ถือว่าลดปัญหาได้เยอะแล้วนะ
ให้ทุกคนสู้ เหนื่อยกายดีกว่าเหนื่อยใจนะ หลังจากที่ผ่านช่วงชีวิตนี้มาได้ เชื่อเลยว่าเราจะแกร่งขึ้นอีกมาก
มันจะทำให้เราสู้งานมากขึ้น ประหยัดมากขึ้น เห็นค่าของเงินมากขึ้น ขอให้ทุกคน กลับมามีชีวิตที่ดีอีกครั้ง
ขอขอบคุณ : m o n e y b u f f a l o