Home ข้อคิด เศรษฐีทำตัวเป็นวัวลืมตีน ไม่เอาพี่เอาน้อง (เตือนสติได้ดีมาก)

เศรษฐีทำตัวเป็นวัวลืมตีน ไม่เอาพี่เอาน้อง (เตือนสติได้ดีมาก)

5 second read
ปิดความเห็น บน เศรษฐีทำตัวเป็นวัวลืมตีน ไม่เอาพี่เอาน้อง (เตือนสติได้ดีมาก)
0

ในช่วงชีวิตของคนเราที่ผ่านมามีทั้งสุขและทุ กข์ชีวิตมีขึ้นมีลงต่างกันไป ดังนั้นช่วงชีวิตที่”

ต กต่ำถึงขีดสุด” ในความรู้สึกของแต่ละคนจึงไม่เท่ากัน จะใช้ชีวิตในช่วงที่ต กต่ำ ถึงขีดสุดได้อย่ างไร

ต้องใช้สติให้มากขึ้นและดำเนินชีวิตต่อไปให้ได้

นานมาแล้วผมมีที่ดินอยู่ใน แทบทุกเข ตของ ก รุ งเท พ และหั วเมืองใหญ่ๆ รวมแล้วก็ประมาณ 500 ไร่

ได้และเมื่อ 30 ปีก่อนนั้น ผมพกเงินในกระเป๋าไว้เที่ยวครั้งละเป็นแสนๆ ทำมาค้ าข ายได้เงิน

มามากมาย ก็ส่งลูกเรียนเมืองนอกหมด ไม่ต้องทำงานให้เรียนอ ย่ า งเดียวเมี ย ผมชอบ

เ ล่ นหุ้ น ราค าหุ้ นก็ขึ้นเอาๆ ก็ได้กำไรมาเยอะอยู่เหมือนกัน เราก็มีเงินสดหลายร้อยล้ าน

และจู่ๆ พออยู่มาวันนึงนั้น ก็มีญาติผมคนหนึ่งเดื อ ดร้อนมายืมเงิน วันนั้นผมก็เลยด่ าเขาซะแร ง

แบบที่ว่าเสี ยๆ หายๆ เพราะคิดว่าตนเองมีเงินมากจะพูดอะไรกับใครยังไงก็ได้ แต่ก็ให้เงินเขาไปอยู่นะ แสนนึง

บอกเขาว่าไม่ต้องมาให้เห็นหน้าอีกนะเพราะเงินที่ให้ คิดว่าให้ทาน จากนั้นเขารับเงินพร้อมน้ำตา

ตอนนั้นผมไม่รู้เลยว่าเขาจะรู้สึกแบบไหนเมื่อผมคิดการใหญ่ ตั้งโรงงานอะไหล่ที่อยุธย าแล้วในปีนั้นเกิดวิ ก ฤ ต

น้ำท่วม พัดพาทุกอ ย่ า งไปจากชีวิตผม รถผม 19 คันบ้านอีก 5 หลัง ที่ดินมากมาย เงินสดที่เคยมี

แฟนผมเล่นหุ้ นเจ๊ งไปสี่ร้อยกว่าล้ านลูกก็ทำธุรกิจจนหมดตัวข าดทุนภายใน 2 ปี

คือสิ่งที่มีมันหายไปในพริบตา เหลือไว้เพียงหนี้ 200 กว่าล้าน ทุกวันนี้ผมคือบุคคล ล้ ม ละ ล า ย

เช่าห้องพออยู่ได้ ข ายก๋วยเตี๋ยวไปวันๆ ป ร ะ ทั ง ชี วิ ต และเมียผมก็ไม่มีกระจิตกระใจ

ทำอะไร ทั้งลูกผมก็ต่างแยกย้ า ยกันไปเอาตั ว ร อ ดต่างคนต่างไป ไปตามเส้นทางชีวิตตนเอง

ผมไม่เคยได้เห็นหน้าลูกเลย มาบัดนี้ผมอายุ 76 ปีแล้วผมต้องยกหม้อ ก๋วยเตี๋ยวล้ างจาน

แต่พอมันอยู่นานวันเข้าทุกวันนี้ ผมปลงได้เอง ผมมาลำบากตอนแก่แต่ก็เริ่มเข้าใจชีวิตมากขึ้น

เงินค่าเช่ าห้องนี้ ผมไปยืมกับคนที่ผมเคยด่ าเขาให้เขาไปแสนนึง แต่ลูกเขายื่นเงินให้ผมแสนห้า

บอกผมว่าพ่อผมบ ากหน้าไปยืมเงินคุณลุงเพราะตอนนั้น ผมเข้าโรงพ ย า บ า ลผ่ า ตัด

คุณลุงด่ าแล้วโยนเงินให้เหมือนพ่อผมเป็นหม าพ่อผมยอมหมดเพราะชีวิตลูก มีค่ามากกว่าอะไรทั้งนั้น

ต่อให้ทำ อ ย่ า ง ไรพ่อก็ยอมถ้ามีเงินจะให้หามาคืนคุณลุงให้ได้ และแสนนี้ผมคืน ส่วนห้าหมื่นคือด อ กละกัน

ไม่มีหนี้บุญคุณต่อไปแล้ว แต่หากคุณลุงลำบาก คุณลุงมายืมกับผมได้นะ ผมจะให้ก ู้

ผมจะไม่ด่ าเหมือนที่คุณลุงด่ าพ่อผมหรอกนะ เพราะถ้าไม่มีเงินคุณลุง ผมคงไม่ร อดในวันนั้น

เพราะเงินแสนที่คุณลุงโยนให้ มันต่อ ชีวิตให้ผมได้ ผมทำตามที่พ่อบอกแล้วให้ตอบแทนหนี้

ก้อนนี้ให้ลุง และส่วนลูกคุณลุง ผมไม่รู้ก ร ร มของใครของมันนะเมื่อได้ยินดังนั้น ผมเดินร้องไห้

มาถึงบ้านเอาเงินมาจ่ายค่าห้อง และลงทุ นร้านก๋วยเตี๋ยวเล็กๆมีเงินเก็บไว้ 30,000 บาท

จากวันนี้ผมเข้าใจความรู้สึ กของคำว่า ก ร ร มตามสนอ งหลานเขาไม่ได้ด่ าผมแต่หลานพูดความจริงให้ฟัง

แค่ผมรับความจริงไม่ได้เท่านั้นแต่ตอนนี้ผมมีความสุขดี พระ แม่ชี ขอท าน มากินก๋วยเตี๋ยวที่ร้านผม ผมไม่คิดเงิน

ตอนผมมีเยอะๆ ผมไม่ชอบคนบอกบุ ญผม ไม่เคยทำบุ ญเลย ผมกินผมเที่ยวแต่ตอนนี้ผมหมดตัว มีหนี้สิน

ไม่มีเพื่อน ไ ร้ ลูกผมถึงได้ฟังธรรมะเข้าวัดเป็น ตอนนี้ผมห่วงแค่เมียผมผมภาวนาให้เมี ยไปก่อนผม เพราะไม่อย าก

เห็นเมียลำบ าก ไม่ต้องถามว่าผมเป็นใคร ร้านอยู่ตรงไหนแค่จะเก็บเรื่องราวมาให้อ่ าน ให้เป็นข้อคิดเตือนใจ

คงไม่มีคำว่า ย า กจนสำหรับคนขยันไม่มีการปลงต ก หากไม่เคยสูงสุด แล้วมาต่ำสุด และเรื่องนี้สอนใจได้ดีจริงๆ

มันถือว่าเป็นการสอนใจ สำหรับใครหลายคนเลยที่ทะนงตน ลืมตัว คิดว่าตัวเองเหนือใคร

สุดท้ายตราบใดที่เรายังมีชีวิต มีลมหายใจ ชีวิตต้องสู้และเดินต่อ อย่ าท้อแท้กับชีวิตแค่ช่วงหนึ่ง

ขอเป็นกำลังใจให้ผู้ที่มีชีวิตที่ต กต่ำถึงขีดสุดผ่านพ้ นช่วงเวลาแบบนี้ไปให้ได้

 

ขอบคุณ : c h a y e n d

Load More Related Articles
Load More By Admin
Load More In ข้อคิด
Comments are closed.

Check Also

คนไม่มีลูก เเก่..มา เเล้วใครจะเลี้ยงดูคุณ ใครที่คิดแบบนี้ลองอ่านแล้วจะเข้าใจ (สอนใจได้ดี)

แนวคิดที่ว่า… มีลูกเพื่อหวังจะให้มาเลี้ยงดูในย ามแก่นั้ … …