เรื่องที่แม่ต้องสอนลูก
เรื่องที่แม่ต้องสอนลูก ไม่ใช่แค่เรียนให้เก่ง แต่ต้องเป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีความสุข โตไปไม่ลำบ าก
วิธีการสอนลูกที่ต้องเริ่มตั้งแต่ยังเล็กไม่ต้องเก่ง
ขอแค่เป็นคนดีนะลูก.. เรื่องที่แม่ ต้องสอนลูกตั้งแต่ยังเล็ก แนะนำพ่อแม่ผู้ปกครอง ถึงเรื่องที่แม่ต้องสอนลูก ว่าการสร้างสังคมที่ดีสามารถเริ่มต้นได้ที่ตัวเรา
และต้องช่วยกันปลูกฝังความดี สู่หัวใจลูกตั้งแต่ยังเล็ก สำหรับเทคนิคการเลี้ยงลูกให้จิตใจดีต้องเริ่ม ดังนี้
วิธีการสอนลูกให้เป็นผู้ใหญ่ที่ดี มีความสุข โตไปไม่ลำบ าก
ฝึกให้ลูกช่วยเหลือตนเอง
ฝึกให้ลูกช่วยเหลือ ตนเอง เพื่อเป็นพื้นฐานทักษะอื่นต่อไป เพราะการที่เด็กสามารถช่วยเหลือตนเองได้
และลดการพึ่งพาคนอื่นจะทำให้เด็กเกิดความมั่นใจในตัวเอง ลดความกังวลและพร้อมที่จะเรียนรู้ทักษะอื่นๆ ในชีวิตประจำวัน
ฝึกลูกช่วยงานบ้าน
ฝึกลูกช่วยงานบ้าน เริ่มได้ตั้งแต่เล็กโดยส่วนใหญ่ เด็กวัย 2 ขวบ
เริ่มฟังและเข้าใจคำสั่งง่ายๆดังนั้นเราควรฝึกลูกให้ช่วยงานบ้านขั้นพื้นฐาน
เช่น เก็บของเล่นหลังเล่นเสร็จแล้วนำเสื้อผ้าที่สวมแล้วไปใส่ตะกร้า เป็นต้นการให้ลูกช่วยงานบ้าน
โดยเริ่มจากสิ่งที่เขาควรต้องรับผิดชอบเอง
ทำให้เด็กได้เรียนรู้เรื่องหน้าที่ของตนเองซึ่งเป็นสิ่งสำคัญต่อการใช้ชีวิตในสังคม
เมื่อลูกเริ่มโตขึ้นค่อยเพิ่มหน้าที่ภายในบ้านให้เหมาะสมกับวัย
ลูกก็จะเรียนรู้ว่าสิ่งต่างๆ ที่ตนทำมีผลกระทบ ต่อคนรอบข้างอย่างไร นับเป็นจุดเริ่มต้นของการเอาใจเขาใส่ใจเรา
ฝึกระเบียบวินัย
ฝึกระเบียบวินัย เพื่อเป็นทักษะการควบคุมตนเอง และยับยั้งชั่งใจให้แก่ลูก
นับเป็นพื้นฐานต่อการทนต่อสิ่งยั่วยุต่างๆ ในชีวิตประจำวันซึ่งสามารถทำได้ตั้งแต่เล็กๆ
อาทิ การตื่นนอนและเข้านอนให้เป็นเวลา รับประทานอาหารเป็นเวลา การเก็บของเล่นให้เป็นที่เป็นทางหลังเล่นเสร็จแล้ว
ไม่รับประทานขนมหรืออาหารในห้องนอน เป็นต้น
สอนเรื่องอารมณ์ต่าง ๆ
อาทิ เมื่อลูกร้ อ งไ ห้ที่ไม่ได้ของเล่นอาจบอกลูกว่าแม่รู้ ว่าลูกกำลังเสี ยใจที่ไม่ได้ของเล่น
หรือเมื่อลูกโ ก ร ธที่ถูก แ ย่ ง ขนม ต้องบอกว่าลูกกำลังโ ก ร ธใช่ไหม
แต่แม่อย ากให้ลูกหายใจลึกๆ ใจเย็นๆ การสอนเช่นนี้ จะช่วยทำให้ลูกเรียนรู้ที่จะจัดการกับอารมณ์ของตนเมื่อโตขึ้นและไม่นำอารมณ์ของตนเองมาเป็นข้ออ้างในการ ทำ ร้ า ย คนอื่น
สร้างแรงบันดาลใจด้วยเรื่องเล่า
สร้าง แ ร งบันด าลใจ ด้วยเรื่องเล่า สำหรับเด็กเล็กโลกของเขา ยังไม่กว้างใหญ่มากนัก การเล่าเรื่องราวต่างๆ จากนิทานหรือเกร็ดประวัติศาสตร์อย่างง่ายๆ
เกี่ยวกับบุคคลที่ทำเพื่อผู้อื่นจะช่วยทำให้ลูกเข้าใจเรื่องการช่วยเหลือกันในสังคมได้ดีขึ้น คนเป็นพ่อแม่อาจถามลูกว่าหากเกิดเหตุการณ์
อย่างในนิทานขึ้นกับลูก ลูกจะทำอย่างไร ลองฟังคำตอบของลูกแล้วชื่นชม
หรือตั้งคำถามเพื่อชี้แนะแนวทางที่ถูก หลีกเลี่ยงที่จะ วิ จ ารณ์
และตัดสินว่าคำตอบของลูกถูกหรือผิดเพื่อให้ลูกได้ฝึกคิดด้วยตนเอง โดยมีพ่อแม่เป็นผู้ชี้นำแนวทางที่เหมาะสม
การพาลูกพบคนหลากหลาย
การพาลูกพบคนหลากหลาย นับเป็นการฝึกให้ลูก มีความเห็นอกเห็นใจ ผู้อื่นและเข้าใจสังคมมากขึ้น คือ ทำให้เขาเห็นว่าในโลกนี้มีคนที่แตกต่างหลากหลาย
ทั้งสีผิว เ ชื้ อ ช า ติ ภาษาและความคิดซึ่งสิ่งที่แตกต่างเหล่านี้ไม่ได้แปลว่าผิดเสมอไป
การพาลูกออกเดินทางท่องเที่ยวได้เห็นวิถีชีวิตผู้คนที่แตกต่าง
พร้อมกับคำชี้แนะที่เหมาะสม จะทำให้ลูกเข้าใจความเป็นไปของโลกใบนี้ได้ดีขึ้น
สอนลูกให้รู้จักแก้ปัญหา
สอนลูกให้รู้จักแก้ปัญหา บ่อยครั้ง ที่ลูกทำผิ ด พล าด พ่อแม่หลายคนจะใช้วิธีตำหนิหรือดุลูก เพื่อไม่ให้ลูกทำผิดอีกซึ่งจะทำให้เด็กคิดว่าการทำผิดเป็นเรื่องใหญ่
และกลัวที่จะทำผิด หรือจะปกปิดความคิดของตนเองโดยการ โ ก ห ก ดังนั้น พ่อแม่ควรเริ่มต้นในการให้อภั ยลูก แล้วชวนลูกแก้ไข้ปัญหาหลังจากที่เกิดข้อผิ ด พล าด
อาทิ เด็กวิ่งแล้วทำน้ำหก พ่อแม่ควรฝึกให้เด็กรับผิดชอบในสิ่งที่ทำ คือ เช็ดน้ำและเก็บแก้วให้เป็นที่หลังจากนั้นชวนให้ลูกคิดว่าครั้งหน้าสามารถระวังอย่างไรให้ไม่เกิดเหตุการณ์แบบนี้อีก
นอกจากเรื่องที่แม่ต้องสอนลูกแล้ว พ่อแม่ ผู้ปกครอง คนในครอบครัว
ก็ต้องเป็นต้นแบบ หรือแบบอย่างที่ดีให้แก่เด็ก เพราะการเห็นแบบอย่างที่ดีจะทำให้เด็กสามารถจดจำ การทำดีได้
มากกว่าการใช้เพียงคำพูด
หากพ่อแม่หมั่นสอน สิ่งสำคัญที่จำเป็นต้องสอนลูก ลูกก็จะเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดีอย่างแน่นอน
ขอขอบคุณ : t h e a s i a n p a r e n t