วันนี้ จึงมีทริกง่าย ๆ เอาไว้แก้ปัญหามีเงินติดตัวแล้วอย ากใช้ ต้องทำอย่างไรถึงจะออมเงิน เก็บเงินอยู่
1. สร้างเป้าหมายให้ตัวเอง
คนส่วนมากที่ใช้จ่ายฟุ่ มเฟื อย จนไม่มีเงินเก็บ เหตุผลหนึ่งก็เพราะไม่รู้ว่าจะเก็บเงินไปทำไม เพราะฉะนั้น ลองหาเป้าหมายที่ชัดเจนของตัวเองดู ว่าเก็บเงินเพื่ออะไร เป็นจำนวนเท่าไหร่
ภายในระยะเวลาแค่ไหน เช่น ภายใน 1 ปี จะเก็บเงินเรียนต่อ หรือเก็บเงินซื้ อบ้ านในอีก 5 ปี เป็นต้น
ทำแบบนี้จะทำให้เห็นภาพชัดขึ้นและมีแร ง ก ร ะ ตุ้ นในการเก็บเงิน อาจเริ่มด้วยเป้าหมายเล็ก ๆ หรือเงินจำนวนไม่มากก่อนก็ได้ เมื่อทำสำเร็จค่อยขยับเป้าหมายให้ใหญ่ขึ้นต่อไป
2. เก็บก่อนใช้
ถ้ารู้ตัวว่าเป็นคนที่ควบคุมการใช้เงินไม่ค่อยได้ เมื่อเงินเดือนออกก็อย่าเพิ่งกดเงินมาเข้ากระเป๋าจนหมด เดี๋ยวจะเผลอจ่ายกระจาย แต่ควรกันเงินส่วนหนึ่งเพื่อเป็นเงินออมทันที สามารถทำได้ง่าย ๆ
ด้วยการเปิดบัญชีสำหรับออมเงินแยกมาต่างหาก แล้วสมัครบริการโ อ นเงินอัตโ นมั ติ หักจากบัญชีเงินเดือน ตามจำนวนที่เราอย ากจะออมเลย เช่น เดือนละ 2,000 บาท หรือ 10% ของรายได้
โดยควรเลือกบัญชีที่ให้ด อ ก เ บี้ ยสูงหน่อย เช่น บัญชีออมทรัพย์ด อ ก เ บี้ ยสูง
หรือฝากประจำ และสำคัญที่สุด ต้องเป็นบัญชีที่ไม่มีบัตรเดบิต ไม่สมัคร Internet Banking ได้ยิ่งดี จะได้ไม่ต้องเผลอกดเงินออกมาใช้
หรือมือลั่นสั่งสินค้าช้อปปิ้ง อ อ นไ ลน์จนหมดเสียก่อน เท่านี้ก็จะช่วยให้การออมเงินมีวินัยอย่างสม่ำเสมอแน่นอน
3. เปิดบัญชีร่วม
การเปิดบัญชีร่วมกับคนในครอบครัวที่ไว้ใจได้ หรือสามี-ภรรย า ก็เป็นอีกแนวทางที่ช่วยได้ดีทีเดียว
เพราะเวลาจะถอนเงินแต่ละครั้ง มักมีขั้นตอนที่ยุ่งย ากพอสมควร
เพราะต้องพากันไปธนาคารทั้งคู่ แล้วเซ็นชื่อยินยอมทั้ง 2 ฝ่าย นอกจากนี้ เวลาจะถอนเงินไปใช้จ่ายฟุ่ มเฟื อย
จะได้มีคนคอยช่วยเตือนเรื่องการใช้เงินอีกด้วย
4. เลี่ยงเข้าเว็บไซต์ช้อปปิ้ ง อ อ นไ ลน์
ถ้าอย ากเก็บเงินให้ได้จริง ๆ เลี่ยงได้เลี่ยงไปเลยกับเว็บไซต์ช้อปปิ้งออนไ ลน์ เพจขายของ
เพจบอกโปรโมชั่น รวมโปรโมชั่นต่าง ๆ จะได้ไม่ต้องเห็นสินค้าล่อตาล่อใจจนเกิดกิเ ล ส ทำเงินหายเกลี้ยงในพริบตาเหมือนที่ผ่านมา
5. เปลี่ยนมาซื้ อของที่มีมูลค่าเติบโตในอนาคต
ถ้าคิดว่าตัวเองยังติดนิสัยชอบใช้เงิน อย ากซื้ อของตลอดเวลาอยู่ เอาเป็นว่าแทนที่จะไปซื้ อของฟุ่ มเฟื อย ลองเปลี่ยนมาล ง ทุ น
กับสินค้าแ บ ร น ด์เนม หรือของสะสมที่มีมูลค่าเติบโตต่อได้ในอนาคตดีกว่าไหม
เช่น กระเป๋า รองเท้า นาฬิกาแ บ ร น ด์ดัง หรือของสะสมหาย าก เป็นต้น
เพราะเมื่อเวลาผ่านไป สินค้าเหล่านี้มักมีมูลค่าที่เพิ่มขึ้น สามารถนำไปขายต่อได้ นับเป็นการล ง ทุ น อีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ
อย่างไรก็ดี คุณก็ต้องมีความเข้าใจสินค้านั้น ๆ และตลาดให้ดีด้วย เพราะอาจเ สี่ ย งขาดทุนได้ง่าย ๆ เช่นกัน
6. อย่าพกเงินสดเยอะ
คนที่เก็บเงินไม่อยู่ส่วนมากแล้วมักจะควบคุมการใช้เงินในแต่ละวันของตัวเองไม่ได้ เห็นอะไรก็อย ากซื้ อ อย ากได้ไปหมด
เคยสังเกตไหมว่า เวลาเรามีแบงก์พันติดกระเป๋าทีไรมักจะหมดเร็วทุกที
พอมีเงินเยอะแล้วทำให้เรากล้าซื้ อ เพราะฉะนั้น วิธีแก้ง่าย ๆ คือ อย่าพกเงินสดติดกระเป๋าเยอะ
แต่เปลี่ยนมาใช้วิธีกำหนดไปเลยว่าจะใช้เงินไม่เกินวันละกี่บาท ก็พกเท่านั้นพอ ถ้ามีเหตุฉุ ก เ ฉิ นจำเป็นจริง ๆ ค่อยไปกดเงินเอาทีหลัง เท่านี้ปัญหามือเติบใช้เงินเกินตัว ก็จะค่อย ๆ หมดไป
7. เก็บเงินในรูปแบบอื่นที่ไม่ใช่เงินสด
หลายคนเห็นเงินสดเป็นไม่ได้ เป็นต้องหยิบออกมาใช้ทุกที เอาเป็นว่าลองเปลี่ยนไปเก็บเงินไว้ในรูปแบบอื่นที่ไม่สามารถถอนออกมา
ใช้ได้ง่าย ๆ เช่น เปิดบัญชีเงินฝากประจำ หรือ ซื้ อสลากออมทรัพย์ ก็นับเป็นอีกทางเลือกที่น่าสนใจไม่น้อย
8. นำเงินไปล ง ทุ น
ลองคิดดูเล่น ๆ ถ้าเปลี่ยนเงินที่เราใช้จ่ายฟุ่ มเฟื อยแต่ละเดือนมาล ง ทุ น แทน เมื่อเวลาผ่านไปเงินจำนวนนั้นจะเติบโตขนาดไหน
ยิ่งปัจจุบันการล ง ทุ น ก็มีหลากหลายรูปแบบให้เลือกตามความเ สี่ ย งที่รับได้
เช่น กองทุนรวม หุ้น ทองคำ อสังหาริมทรัพย์ เป็นต้น ซึ่งแม้ว่าการล ง ทุ น จะมีความเ สี่ ย ง มีโอกาสขาดทุน แต่อย่างน้อยก็ยังดีกว่า
ปล่อยให้หมดไปกับของฟุ่ มเฟื อยโดยไม่ก่อประโยชน์อะไรเลย
9. หาคนช่วยเก็บ
เก็บเงินเองย ากนัก ลองมาทุกวิธีแล้วก็ยังไม่สำเร็จสักที ก็หาคนใกล้ตัวมาช่วยดูแลให้หมดเรื่องไปเลย โดยควรเป็นคนในครอบครัว
เช่น พ่อ แม่ พี่น้องที่ไว้ใจได้ หรือคู่สามี-ภรรย า แล้วนำเงินไปฝากไว้กับคนนั้นให้เขาช่วยดูแล
เพราะถ้าเก็บไว้กับตัวเองรับรองไม่มีเหลือแน่ เท่านี้เราก็จะค่อย ๆ สามารถควบคุมการใช้เงิน ให้เริ่มมีเงินออมได้แล้ว
ที่มา : m o n e y. k a p o o k