หลายคนเคยสงสั ยว่าเงินเดือนที่ได้หายไปไหนหมด? หรือหาคำตอบไม่ได้เลยว่าเงินในบัญชี
ไม่เหลือเลยตอนสิ้นเดือนเพราะอะไร? ยิ่งกว่านั้นคือคุณเริ่มคิดบ่อยขึ้นทุกทีว่า “เงินหายไปไหน?”
ถ้าคุณเป็นแบบที่เรากล่าวถึงในข้างต้นล่ะก็บอกได้เลยว่าสถานะทางการเงินของคุณมาถึงจุด อั น ต ร า ยซะแล้ว แต่ถ้าคุณยังไม่แน่ใจ
เพราะใครๆ ก็คงคิดแบบนี้ก็ลองมาดูกันว่าคุณมีสัญญาณ อั น ต ร า ย ด้านการเงินรึเปล่า
สัญญาณที่ 1 ไม่พล าดทุกเทรนด์
การซื้ อสินค้าหากทำอย่างพอดี หรือซื้อเพราะความจำเป็นต่องานของคุณนั้นเป็นสิ่งที่คุณสมควรทำ
แต่การซื้อโทรศัพท์มือถือรุ่นใหม่และเปลี่ยนรุ่นตลอดเวลาเพราะคิดว่าตัวเองต้อง
“ตามเทรนด์” ตลอดเวลานั้นสร้างความเสี ยหายทางทางการเงินได้
ดังนั้นก่อนซื้ อทุกครั้งอย่าลืมคิดว่า “จำเป็น” หรือแค่ “อ ย า ก ได้”
สัญญาณที่ 2 ปล่อยไว้เดี๋ยวก็ดีเอง
หลายคนที่มีแก้ไขปัญหาทางการเงินไม่ได้มักเชื่อว่า “ปล่อยไว้เดี๋ยวก็ดีเอง”
ซึ่งบอกได้เลยว่านั่นเป็นหนึ่งในเส้นทางสู่ความล้ มเ ห ล วทางด้านการเงิน
เพราะโดยทั่วไปพวกเขามักคิดถึงเฉพาะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้าที่เกิ ดขึ้นในวันนี้เช่น
วันนี้อะไรคือเรื่องจำเป็น แต่ไม่ได้มีการวางแผนสำหรับอนาคตเพื่อเตรียมรับมือแต่อย่างใด
เพราะเชื่อว่าในอนาคตก็จะหาทางออกได้เอง หากคุณคิดแบบนี้ขอให้ลองเปลี่ยนความคิดที่เกี่ยวกับการเงินทั้งหมด
เช่น หากเราตัดสินใจใช้เงินตอนนี้แล้วในอนาคตจะเกิ ดอะไรขึ้นบ้าง
สัญญาณที่ 3 ยิ่งรายได้เพิ่มขึ้น รายจ่ายก็เพิ่มขึ้นตาม
หลายๆ คนคงอย าก ยินว่าตัวเองมีรายได้เพิ่มขึ้น แต่ในขณะที่รายได้เพิ่มขึ้นทุกคนก็อย าก
ใช้เงินเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตของตัวเองให้ดีขึ้นด้วย แต่หากคุณสนใจแต่เฉพาะรายจ่ายเพื่อเพิ่มคุณภาพชีวิตล่ะก็
รายได้จำนวนมากเท่าไหร่ก็ไม่เพียงพอกับรายจ่ายและยังไม่สามารถเก็บออมเงินได้แน่นอนสิ่งที่คุณควรระวังคือ
พย าย ามรักษาระดับรายจ่ายของคุณให้คงที่อยู่เสมอ
ในขณะที่อีกทางคือการเพิ่มรายได้จากทางอื่นๆ ถึงจะเป็นเส้นทางสู่ความสำเร็จ
สัญญาณที่ 4 แยกไม่ออกระหว่าง “จำเป็น” กับ “อย าก ได้”
การเก็บออมเงินเพื่อสร้างความมั่งคั่งนั้น สิ่งสำคัญที่สุดนั้นคือการจัดลำดับความสำคัญ
คุณต้องแบ่งได้อะไรคือสิ่งที่คุณ “ต้องมี”, “มีก็ดี”หรือ “ไม่มีก็ได้”
ในการจ่ายของคุณแต่ละครั้ง หากคุณตั้งเป้าหมายไว้ว่าต้องร่ำรวยขึ้นคุณต้องยอมแลกกับความต้องการบางอย่างในตอนนี้
ถึงคุณจะไม่ชอบก็ตามเคล็ดลับ เขียนเป้าหมายทางการเงินของคุณให้ชัดเจน
แล้วติดเป้าหมายไว้ในที่ๆ คุณมองเห็นได้ชัดเพื่อที่จะอ่านเตือนใจให้ยึดมั่นกับแผนนี้อย่างสม่ำเสมอ
สัญญาณที่ 5 ไม่รู้ว่าใช้เงินซื้ อจ่ายอะไรบ้าง
หลายคนคิดว่าตัวเองรู้ดีว่ารายได้มาจากที่ไหนแล้วใช้ซื้ ออะไรไปบ้างทว่าในความเป็นจริงแล้วมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่เป็นแบบนั้น
เพราะเกือบทุกคนจำได้เฉพาะรายจ่ายก้อนใหญ่ๆ เท่านั้นแต่รายจ่ายเล็กๆ
ต่างหากที่ทำให้รายได้ของเราหายไปแบบไม่รู้ตัวเลยเคล็ดลับ
สัญญาณที่ 6 ไม่เคยตั้งงบรายจ่าย
จุดเริ่มต้นของหนทาง ที่จะทำให้คุณประสบความสำเร็จทางการเงินตั้งงบรายจ่ายและทำให้ได้ตามแผนที่วางไว้
บอกได้เลยว่าแค่นี้ก็เห็นความแตกต่างของเงินใน บัญชี ของคุณแต่หากคุณตั้งงบประมาณไม่ดี
ก็จะทำให้การใช้จ่ายของคุณเกิ ดรอยรั่ วได้ง่าย
สัญญาณที่ 7 ไม่เริ่มเก็บออมเงินตั้งแต่ยังตอนนี้
ในวัยทำงานหลายคนใช้เงินหมดไปกับการซื้อสิ่งของที่ตนเองต้องการ และคิดว่ายังไม่ถึงเวลาที่ต้องเริ่มออมเงิน
แต่เดี๋ยวก่อน ไม่มีคำว่าเร็วเกินไปสำหรับการออมเงินไม่ว่าคุณจะมีรายได้มากหรือน้อยขนาดไหนก็ตาม เราขอแนะ
นำให้คุณเริ่มออมเงินตั้งแต่วันนี้คนรวยหลายๆ คน แนะ นำว่าคุณควร “เก็บออม”
สัญญาณที่ 8 หนี้วันนี้ใช้วันหน้า
หลายคนในปัจจุบันเรียกได้ว่าเป็นหนี้กันทั่วหน้าทำให้ด อ กเบี้ ยที่เป็นของแถมจากการเป็นหนี้นั้นพอกพูนจนกระทั่งไม่รู้จะ
ชำระหนี้ยังไงดี และหลายคนที่ไม่รู้ว่าจะชดใช้หนี้เหล่านี้ยังไง
ก็เลือกที่จะปิดตาหนึ่งข้างโดยหวังว่าจะนำรายได้ที่มีมาใช้หนี้ทั้งหมดโดยไม่มีการออม
….ทั้ง 8 ข้อให้เป็นแนวคิดที่จะช่วยให้คุณมีเงินออมโดยที่คุณไม่ต้องอดหรือกดดันตัวเองจนเกินไปแล้วการออมเงินจะกลายเป็นหนทางสู่ความร่ำรวยในอนาคตโดยคุณเองไม่รู้ตัว
“จงสร้างฝันของคุณเอง มิฉะนั้นคนอื่นจะจ้างคุณให้ไปช่วยสร้างฝันของพวกเขา”
“จงเริ่มจากจุดที่คุณยืนอยู่ จงใช้ในสิ่งที่คุณมี และจงทำในสิ่งที่คุณสามารถทำได้”